อิทธิพลของชนิด Butyrate ที่แตกต่างกันต่อการผลิตในชั้น

ผลของ Butyrate ชนิดต่างๆ ต่อประสิทธิภาพการผลิต การย่อยได้ และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในไก่ไข่

1 วัสดุและวิธีการ                                                                        ／

1.1 สัตว์ทดลองและกลุ่ม

ไก่ไข่ B380 อายุ 48 สัปดาห์ จำนวน 1008 ตัว ถูกสุ่มแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มการทดลอง กลุ่มละ 6 ซ้ำ, 42 ตัวต่อซ้ำ, ให้อาหารเป็นเวลา 60 วัน กลุ่มการทดลองที่ 1 คือ กลุ่มควบคุม ซึ่งได้รับอาหารพื้นฐาน กลุ่มการทดลองที่ 2 คือ กลุ่มโซเดียมบิวทิเรต ซึ่งได้รับอาหารพื้นฐาน + โซเดียมบิวทิเรต 300ppm กลุ่มการทดลองที่ 3 คือ กลุ่มโซเดียมบิวทิเรตเคลือบ 50% ซึ่งได้รับอาหารพื้นฐาน + โซเดียมบิวทิเรตเคลือบ 50% 300ppm กลุ่มการทดลองที่ 4 คือ กลุ่มแคลเซียมโซเดียมบิวทิเรต ซึ่งได้รับอาหารพื้นฐาน + แคลเซียมบิวทิเรต 300ppm 1.2 อาหารและการจัดการ

ไก่ไข่ทั้งหมดได้รับอาหารเบื้องต้นเป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนการทดลอง ไก่ไข่ถูกเลี้ยงในกรงไก่แบบ 3 ชั้น

การทำซ้ำหนึ่งครั้งใช้ 3 ชั้น, 5 กรงต่อชั้น, 3 ตัวต่อกรง, ยกเว้น 2 ตัวต่อกรงใน 2 กรงของชั้นที่สามไก่ไข่ทั้งหมดได้รับอาหารวันละสองครั้ง (8:00 น. และ 14:00 น.),  เก็บไข่เวลา 17:00 น. จุกนมดื่มน้ำ, เข้าถึงน้ำได้อย่างอิสระ แสงสว่างเพิ่มเติมในตอนเช้าและเย็น, ระยะเวลาการส่องสว่างคือ 16 ชั่วโมง／วัน อุณหภูมิถูกบันทึกที่8:30 น. และ 14:30 น. ตามลำดับ ความชื้นถูกบันทึกตลอดทั้งวัน ทำความสะอาดกรงเป็นประจำ2 บทสรุป3.1 ผลการทดลองระบุว่า: เมื่อเติมโซเดียมบิวทิเรต แคลเซียมบิวทิเรต หรือโซเดียมบิวทิเรตเคลือบ 50% ลงในอาหารประจำวันของไก่ไข่ ประสิทธิภาพการผลิตของไก่ไข่จะดีขึ้นในระดับต่างๆ การเติมโซเดียมบิวทิเรตและแคลเซียมบิวทิเรตสามารถเพิ่มอัตราการไข่และลดอัตราส่วนอาหารต่อการเจริญเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ ผลลัพธ์ดีกว่าโซเดียมบิวทิเรตเคลือบ 50%

4.2

การเติมบิวทิเรตลงในอาหารประจำวันของไก่ไข่สามารถปรับปรุงอัตราการใช้สารอาหาร อัตราการใช้โปรตีนหยาบ ฟอสฟอรัส และพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

4.3 การเติมโซเดียมบิวทิเรต แคลเซียมบิวทิเรต หรือโซเดียมบิวทิเรตเคลือบ 50% ลงในอาหารประจำวันของไก่ไข่สามารถเพิ่มผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของไก่ไข่ได้ การเติมแคลเซียมบิวทิเรตให้ผลกำไรดีที่สุด การเติมโซเดียมบิวทิเรตเป็นอันดับสอง